Saturday, January 24, 2009

ความฝันเป็นจริงเมื่อ "บอลไทยไปมวยโลก" ไทย 2 - 1 เลบานอน


ที่มา SiamSport

เริ่มเกมนี้ 11 คนแรกของทีมชาติไทย ไม่มีพลิกโผประกอบด้วยผู้รักษาประตูโกสินทร์ หทัยรัตนกุล กองหลัง ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์,ปฎิภาณ เพ็ชรพูล แบ๊กซ้าย ณัฐพงษ์ สมณะ แบ๊กขวา สุรีย์ สุขะ กองกลาง ดัสกร ทองเหลา,พิชิตพงษ์ เฉยฉิว,สุรัตน์ สุขะ,รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค,สุเชาว์ นุชนุ่ม กองหน้าตัวเดียว ธีรศิลป์ แดงดา

เริ่มเกมในครึ่งเวลาแรกทีมชาติไทยไม่รอช้าเปิดเกมเข้าใส่เลบานอนทันที แต่เลบานอนยังรับได้แน่นแล้วหาโอกาสโต้กลับเพื่อจะได้บุกไทย น.9 เลบานอนได้เสียวก่อน เมื่อ ปฎิภาณ สกัดบอลไม่ดีเข้าทาง ซากาเรีย อัดเปรี้ยงเดียวแต่ลูกนี้ โกสินทร์ ยังไวทายาทพุ่งปัดออกหลังไปไทยเสียเตะมุม จากนั้นแค่สองนาทีแฟนบอลชาวไทยได้เฮลั่นสนามเมื่อได้จังหวะขลุกขลิกหน้าประตูเลบานอน ดัสกรแทงบอลไปโดนแผงหลังเลบานอนเข้าทางตีนของ ธีรศิลป์ ที่ตัดสินใจเร็วใช้หัวเกือกจิ้มเข้าไปง่ายๆสกอร์ไทยนำ 1-0 จากนั้นไทยยังบุกต่อเนื่อง น.13 ธีรศิลป์ ได้สับไกนอกกรอบบอลพุ่งเฉียวเสาสองแค่คืบ เกมไทยยังโหมต่อเนื่องและมีโอกาสอีกหนใน น.17 เมื่อ ดัสกร ได้ยิงไกลแต่เบาเกินไปเข้ามือผู้รักษาประตูเลบานอน

เกมยังเป็นของไทยที่ขึ้นเกมได้ดีครองบอลได้มากกว่า น.22 พิชิตพงษ์ ชิพบอลตรงหน้ากรอบเขตโทษ
ก่อนที่ ดัสกร จะเชตต่อบอลไปตกที่เสาสองจังหวัดเดียวกัน สุเชาว์ เติมขึ้นมาสูงจับบอลไว้หนึ่งจังหวัด
ก่อนอัดเต็มเท้าบอลเสียบเสาสองให้ไทยนำ 2-0 ยิ่งเล่นยิ่งดีกว่า สำหรับไทยท้ายเกมครึ่งแรก น.34 รังสรรค์ เคลียร์บอลไม่ขาดปลิ้นไปหน้าประตู โกสินทร์ ขยับออกมาบล๊อกก่อนจะถึง โมฮัมหมัด หลังจากนั้น ไทยกลับมาได้ลุ้นอีกหนจาก ธีรศิลป์ ที่กระดกให้ สุเชาว์ หลอกยิงเสาแรกแต่เข้าข้างประตู ทำให้ครึ่งแรกไทยนำ2-0

ครึ่งหลังทีมชาติไทยเปลี่ยนเอา โกสินทร์ หทัยรัตนกุล ผู้รักษาประตูออกเนื่องจากมีอาการบาดเจ็บก่อนให้
กิตติศักดิ์ ระวังป่า ลงเล่นแทนและ น.51 ทีมชาติไทยมาโดนตีตื้นเป็น 1-2 เมื่อ อาบาส อาหมัด ผ่านให้ อัลอาลี ยิงเข้าไปก่อนที่ อัล อาลี จะปะทะกับ กิตติศักดิ์ ในจังหวะหลุดเดียวชนกลางอย่างจังทำให้ อัลอาลีถึงกับสลเหมืดคาสนามต้องรีบปฐมพยาบาลและนำส่งโรงพยาบาลศิริโชคโดยด่วน เกมกลับมาเล่นใหม่ไทยยังพยายามต่อบอลเข้าสู้ น.70 ไทยมีโอกาสอีกครั้งจาก รังสรรค์ แต่บอลถากเสาออกไป จากนั้น น.73 ไทยส่ง
สลาอูดิน อาแว ลงแทน สุเชาว์ นุชนุ่ม และ ให้ รณชัย รังสิโย แทน ธีรศิลป์ แดงดา


King's Cup 39th: Thailand 2 - 1 Lebanon

เกมมาเดือดระอุในน.80 เมื่อ สุรีย์ โดน สอยร่วงก่อนที่นักเตะทั้งสองทีมจะกรูเข้าหากัน และ ซากาเรีย เหวียงหมัดใส่ ดัสกร ทองเหลา ทำให้เรื่องบานปลายนักเตะทั้งสองทีมรุมกันนัวเนียร้อนถึงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและผู้ควบคุมการแข่งขันจะลงไปห้ามทัพและเลบานอนได้ว๊อกเอ๊าส์ออกจากสนาม ทำให้ วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลต้องลงไปเจรจาทำให้นักเตะกลับลงไปเล่นอีกครั้ง ซึ่งผู้ตัดสินชาวไทยให้ใบเหลือง ดัสกร ทองเหลา กับ ซากาเรีย โดยเกมหยุดไปถึง8นาทีเต็มๆรวมทั้งแฟนบอลเหวี่ยงขวดนำลงมาในสนาม จากนั้นเกมกลับมาเล่นใหม่นักเตะทั้งสองทีมยังเล่นกันแบบถึงลูกถึงคน ก่อนที่คู่กรณีเดิมจะมีปัญหาอีกครั้งทำให้เกมต้องต้องหยุดลงอีกครั้ง แต่ท้ายสุดก็กลับมาเล่นใหม่ แต่กรรมการก็เป่านกหวีดหมดเวลาทันที ส่งผลให้ทีมไทยชนะ เลบานอน 2-1 ผ่านเข้าชิงชนะเลิศกับเดนมาร์ก ที่เอาชนะ เกาหลีเหนือ 1-0 ในวันศุกร์ที่ 23 ม.ค. นี้

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
รำลึกเหตุการณ์ในอดีต "ความฝันคนไทยเป็นจริง เมื่อ บอลไทยไปมวยโลก"

ลูกหนังกีฬามหาวิทยาลัยโลกฉาว

นักเตะ “จังโก้” เม็กซิโก เปิดศึกมวยหมู่กลางสนามศุภชลาศัยกับนักเตะไทย ใบแดงปลิวว่อน 5 ใบ ก่อนไทยได้ประตูชัยจาก “เจ้าดำ” อานนท์ สังข์สระน้อย เฉือนชนะ 1-0 สร้างประวัติศาสตร์ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้เป็นครั้งแรกไปพบกับ “หมีขาว” ยูเครน ในวันที่ 15 สิงหาคมนี้ “บิ๊กหอย” ธวัชชัย สัจจกุล ยันเด็กไทยไม่ได้เป็นตัวก่อเหตุวุ่นวาย พร้อมฟันธงโอกาสถึงชิง 50-50 ขณะที่ “ดร.เหลือง” ดร.จุฑา ติงศภัทิย์ รับเสีย 2 ตัวหลักที่ติดโทษแบน ส่งผลถึงทีมแน่ ขณะที่แข้งสาวยังกู่ไม่กลับ พ่าย “ซามูไร” ญี่ปุ่น 0-1 ต้องไปแย่งหนีบ๊วยกับไต้หวันต่อไป


การแข่งขันฟุตบอลกีฬามหาวิทยาลัยโลก ครั้งที่ 24

ที่สนามศุภชลาศัย เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม เป็นการดวลแข้งในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ทีมไทย ทีมอันดับ 1 ของกลุ่ม เอ พบกับ “จังโก้” เม็กซิโก ทีมอันดับ 2 จากกลุ่ม ดี นัดนี้หากทีมไทยสามารถเอาชนะได้สำเร็จ จะเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศเป็นครั้งแรก หลังจากก่อนหน้านี้ทีมไทยเคยทำผลงานได้ดีที่สุดคือคว้าอันดับ 6

เกมนี้ทีมไทยจัดผู้เล่น 11 คนแรกลงสนามในระบบ 4-4-2 คือ

ผู้รักษาประตู อัมรินทร์ เยาว์ดำ, คู่เซ็นเตอร์แบ็ค ธฤติ โนนศรีชัย กับ ภานุพงศ์ วงศา, แบ็คขวา วีระยุทธ จิตรขุนทด, แบ็คซ้าย วีศรุต พันนาศรี, กองกลาง กิตติพล ปาภูงา, จักรพันธ์ แก้วพรหม, สมปอง สอเหลบ, วุฒิชัย ทาทอง, กองหน้า เอกพันธ์ อินทเสน กับ อานนท์ สังข์สระน้อย


เขี่ยบอลเล่นมานักเตะไทยที่ได้รับเสียงเชียร์จากแฟนบอลนับหมื่นคนเดินรุกใส่ทันที

โดย เกมครึ่งแรกทั้งสองทีมต่างมีโอกาสพอๆ กัน แต่ยังทำประตูกันไม่ได้ เข้าสู่ครึ่งหลังทีมไทยปรับแท็คติกส่ง อภิภู สุนทรพนาเวศ ลงมาแทน สมปอง สอเหลบ เกมเล่นมานาที 69 อภิภู ได้จังหวะหลุดเดี่ยวแต่โดน ดิเอโก้ โลเปซ เข้าสกัดล้มคว่ำผู้ตัดสินเป่าเป็นโปรเฟสชั่นแนลฟาวล์ และแจกใบแดงไล่นักเตะเม็กซิโกออกจากสนามทันที

หลังจากนั้นนักเตะไทย
ที่ ตัวผู้เล่นมากกว่าเริ่มบุกใส่มากขึ้น นาที 72 ทีมไทยส่ง อดิศักดิ์ กานู แทน วุฒิชัย ทาทอง อีก 2 นาทีต่อมา อดิศักดิ์ กานู เปิดบอลจากริมเส้นฝั่งขวามาให้ อานนท์ สังข์สระน้อย เทคขึ้นโขกโล่งๆ เต็มหัว บอลพุ่งไปตรงตัวนายทวารเม็กซิโก ก่อนจะปลิ้นหลุดเข้าซุกก้นตาข่ายเป็นประตูให้ทีมไทยออกนำ 1-0 ท่ามกลางเสียงเฮสนั่นสนาม


พอเอาบอลมาเขี่ยเล่นใหม่
เม็กซิโกที่ตัวน้อยกว่ากลับบุกกดดันใส่ไทยมากขึ้น ช่วงทดเวลาเจ็บนาที 94 เกิดเหตุวุ่นวายในสนามขึ้นเมื่อ มาร์โก วัลเวอร์เด ขึ้นโหม่งชนกับ อัมรินทร์ เยาว์ดำ ก่อนจะล้มลงมาแล้วนักเตะจังโก้ไปชักศอกใส่นายประตูของไทยจนปากแตก ทั้งสองคนเลยฟาดหมัดใส่กัน ทำให้ พอล วอร์ด ผู้ตัดสินชาวแคนาดาตัดสินใจให้ใบแดงทั้งคู่ออกสนาม

แม้จะโดนใบแดง
แต่นักเตะเม็กซิโกยังไม่หายซ่า มาร์โก วัลเวอร์เด ลุกขึ้นมาชกเข้าใส่ใบหน้า อัมรินทร์ เยาว์ดำ อย่างจังจน นักเตะทั้งสองทีมวิ่งเข้าตะลุมบอนชกต่อยกันกลางสนาม นอกจากนี้คนดูและสตาฟฟ์โค้ชทั้งสองทีมยังวิ่งเข้าไปผสมโรงด้วย ทั้งเข้าไปห้ามและเข้าไปร่วมชกต่อย รวมถึงแฟนบอลก็ขว้างปาขวดน้ำเข้าใส่ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้ามาเคลียร์ ใช้เวลากว่า 10 นาทีเหตุการณ์จึงสงบ

พอเหตุการณ์สงบผู้ตัดสินได้ให้ใบแดงเพิ่มอีก 2 ใบ
เป็นของ วิศรุต พันนาศรี และ เดเนียล โรเจส ก่อนจะกลับมาเตะกันใหม่และเป่านกหวีดจบเกม ทีมไทยชนะไป 1-0 สร้าง ประวัติศาสตร์ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศเป็นครั้งแรก แต่หลังจบเกมก็เกิดเหตุวุ่นวายอีก เมื่อนักเตะทั้งสองทีมกรูจะเข้าชกกัน ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องมาเคลียร์กว่า 10 นาที จนสงบและนำนักเตะเม็กซิโกออกจากสนามได้

ผลคู่อื่นรอบ 8 ทีมสุดท้าย

ญี่ปุ่น แพ้จุดโทษ อิตาลี 3-4 (ในเวลา 0-0), แคนาดา ชนะ สหราชอาณาจักร 1-0, อุรุกวัย แพ้ ยูเครน 1-2, รอบจัดอันดับ 9-16 สาธารณรัฐเช็ก ชนะ คาซัคสถาน 2-1, ไอร์แลนด์ แพ้ โมร็อกโก 0-1, คีร์กีซสถาน แพ้จุดโทษ บราซิล 4-5 (ในเวลา 1-1) มาเลเชีย ชนะผ่าน อิหร่าน ที่ถอนทีม

สรุปโปรแกรมรอบรองชนะเลิศวันที่ 15 สิงหาคม

ไทย พบ ยูเครน ที่สนามศุภชลาศัย เวลา 15.00 น. และ อิตาลี พบ แคนาดา ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เวลา 15.00 น.

ส่วนการแข่งขันประเภทหญิง

รอบ ชิงอันดับ 9-16 ทีมสาวไทยที่แพ้รวดมา 3 นัดในรอบแรกยังหาฟอร์มเก่งไม่เจอ แพ้ “ซามูไร” ญี่ปุ่น ไป 0-1 ทำให้ต้องไปเล่นในรอบชิงอันดับที่ 13-16 พบกับ ไต้หวัน ในวันที่ 15 สิงหาคม เวลา 11.00 น. ที่ ม.รามคำแหง

ผลคู่อื่นรอบ 8 ทีมสุดท้าย

เกาหลี เหนือ ชนะ เกาหลีใต้ 3-1, รัสเซีย ชนะ สหราชอาณาจักร 1-0, ไอร์แลนด์ ชนะ ฝรั่งเศส 1-0, บราซิล ชนะ จีน 1-0, รอบจัดอันดับ 9-16 เยอรมนี แพ้ โปแลนด์ 0-1, ไต้หวัน แพ้ แอฟริกาใต้ 2-3, นิวซีแลนด์ แพ้ แคนาดา 1-2

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก